top of page

วัดท่าแค (หอไตรท่าแค)  จังหวัดลพบุรี

วัดท่าแค (หอไตรท่าแค)  จังหวัดลพบุรี
วัดท่าแค (หอไตรท่าแค)  จังหวัดลพบุรี

วัดท่าแคสร้างเมื่อ พ.ศ. 2357 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 เป็นวัดที่สังกัดคณะสงฆ์มหานิกายมีโบราณสถานสำคัญคือ หอไตร หอไตรวัดท่าแคหลังนี้ไม่มีผู้ใดทราบประวัติปีที่สร้างแน่ชัด แต่ศาลาการเปรียญไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งสร้างขึ้นโดยมีลวดลายคล้ายกันเพียงแต่มีรายละเอียดน้อยกว่า ศาลาการเปรียญหลังนั้นได้ระบุศักราชที่สร้างไว้เมื่อ พ.ศ.2475 ดังนั้นอายุของอาคารทั้ง 2 หลังนี้จึงน่าอยู่ในช่วงสมัยเดียวกัน 

วัดท่าแค (หอไตรท่าแค)  จังหวัดลพบุรี
วัดท่าแค (หอไตรท่าแค)  จังหวัดลพบุรี

อย่างไรก็ดีจากการสำรวจพบว่าทางวัดท่าแคได้ระบุปีเมื่อแรกสร้างหอไตรไว้ที่ พ.ศ.2466 หอไตรวัดท่าแคถูกเคลื่อนย้ายจากที่ตั้งเดิมออกมาประมาณ 5-6 เมตร เพื่อให้เกิดความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีอาคารหลังนี้เคยได้รับรางวัลอนุรักษ์อาคารดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยามเมื่อปี พ.ศ.2536 ด้วย ลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมหอพระไตรปิฎกวัดท่าแค เป็นอาคารไม้ทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสชั้นเดียวสมัยรัตนโกสินทร์ ใต้ถุนยกสูงโล่ง ขนาดกว้าง x ยาว 10.50 x 10.50 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2466 หลังคาทำเป็นทรงจัตุรมุขซ้อนกันลดหล่นเป็น 3 ชั้น หน้าจั่วประดับไม้ฉลุรองรับหลังคา ส่วนกลางรูปแปดเหลี่ยมทรงสูงประดับด้วยไม้ฉลุ มุงด้วยกระเบื้องว่าวปูนปั้นทับสันเป็นบางส่วน และหลังคาปีกนกเทลาดต่อเนื่องกันโดยตลอด ประดับหลังคา ปั้นลม และเชิงชายด้วยเสาไม้กลึง และลายฉลุเครือเถา พื้นอาคารชั้นบนปูไม้กระดาน ตีชนตลอดแนว แบ่งออกเป็นส่วน ระเบียงโดยรอบกว้าง 1.20 เมตร ฝาผนังห้องเก็บพระไตรปิฎกทำเป็นประตูบานเฟี้ยมตลอดแนว ส่วนล่างของบานประตูเป็นไม้แกะสลักภาพต้นไม้ กระถางแจกันดอกไม้และรูปสัตว์ 

วัดท่าแค (หอไตรท่าแค)  จังหวัดลพบุรี

 ส่วนบนของบานประตูกรุด้วยกระจก ช่องลมทำลายฉลุไม้โดยรอบ ภายในห้องด้านทิศตะวันตกยกพื้นทำเป็นตู้เก็บพระไตรปิฎก ประดับประดาด้วยไม้แกะสลัก และกระจกสี ที่ระเบียงด้านทิศตะวันออกทำเป็นช่องบันไดขึ้น-ลง ตัวอาคารประกอบด้วยเสาไม้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว จำนวน 36 ต้น ที่ระเบียงมีราวระเบียงและลูกกรงไม้โดยรอบ เสาระหว่างระเบียงประดับด้วยลวดลายไม้ฉลุ สภาพปัจจุบัน เป็นศาลาเรือนไม้ยกใต้ถุนโล่ง เป็นอาคารไม้มีฉลุลวดลายสวยงาม ด้านบนมีตู้เก็บหนังสือพระไตรปิฎกอยู่หลายตู้ สภาพทั่วไปของอาคารหลังนี้ยังใช้งานได้ไม่ผุผังมาก โดยได้รับการบูรณะแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2533 และได้รับการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบหอไตร ปี พ.ศ. 2534 ลักษณะการใช้งานปัจจุบัน ทางวัดใช้เก็บพระไตรปิฎก และหนังสือสำคัญที่เกี่ยวกับศาสนาโดย เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมได้ ตามช่วงระยะเวลาที่ทางวัดกำหนด

กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา

เล่ม 109 หน้า 90 ตอนที่ 24 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2535

bottom of page