LOPBURI FULL DAY TOUR
วันเดียวเที่ยวครบลพบุรี
จองเลยวันนี้ ราคารวมรถ VIP+ไกด์
อาหาร 2 มื้อ จอง 6 ท่านขึ้นไป / คนละ 1200 บาท
วันเดียวเที่ยวครบกับการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบที่จังหวัดลพบุรี
เที่ยวเมืองเก่าลพบุรี วัดพระศรีมหาธาตุ พระนารายณ์ราชนิเวศน์
บ้านวิชาเยนทร์ ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด ทุ่งทานตะวัน
หรือ ทุ่งดอกไม้ที่กระเพราะคอฟฟี่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ น้ำตกวังก้านเหลือง
เว็บไซต์ส่งเสริมการท่องเที่ยว และประชาสัมพันธ์ จังหวัดลพบุรี
ลพบุรี.org
Lopburi Travel Guide - Everything You Need to Know About Lopburi
เจิมรถ สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา อาบน้ำมนต์ ไหว้พระพระมหากัจจายนะ พระสีวลี พิฆเนศวร พระราหูเขี้ยวแก้ว ชมวิหารหลวงพ่อบุญมี ไหว้รูปเหมือนหลวงพ่อบุญมี
วัดสิงห์ทอง
113 หมู่ที่ 4 ตำบลบางขันหมาก อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี 15110
โทรศัพท์ ๐๘๗ ๘๒๗๑๖๔๗
โ
หลวงพ่อบุญมี ทีปงฺกโร
พระครูวิบูลจริยาวัตร
อดีตเจ้าคณะตำบลพรหมาสตร์ - บางขันหมาก
และอดีตเจ้าอาวาสวัดสิงห์ทอง
พระครูวิบูลจริยาวัตร (หลวงพ่อบุญมี ทีปงฺกโร ) เกิดที่บ้านหัน ตำบลบ้านหัน อำเภอเกษตรสมบูรณ์
จังหวัดชัยภูมิ เกิดวันอังคารที่ ๑๘ เดือนพฤศจิกายน ๒๔๕๐ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะแม
โยมบิดาชื่อ นายโม่ โยมมารดาชื่อ นางจุก นามสกุลแคภูเขียว มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๗ คน
เมื่อเยาว์วัย ได้รับการศึกษาจากวัด คือศึกษาจากพระ ชื่อพระอาจารย์หร่อย วัดตลาด ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด และต่อมาได้เข้าศึกษาในโรงเรียนวัดบ้านหัน จนสำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๓ (ตามที่ท่านบอกเล่า) เมื่อสำเร็จแล้วได้ออกจากโรงเรียนมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพทำนา
ก่อนอุปสมบท
ได้ประกอบอาชีพทำนา ในระยะต่อมาเกิดฝนแล้ง ไม่สามารถที่จะทำนาต่อไปได้ จึงได้จากบ้านเกิดเมืองนอน เมื่ออายุ ๑๘ ปี ไปประกอบอาชีพรับจ้างเกี่ยวข้าว อยู่แถวตำบลบางขาม ตำบลคลองเม่า อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เป็นเวลานานพอสมควรจึงได้ทำการอุปสมบท
อุปสมบท
พระครูวิบูลจริยาวัตร ( หลวงพ่อบุญมี ทีปงฺกโร) อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๕ ปี เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีวอก ณ พัทธสีมาวัดตะโกพุทธโสภา ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี โดยมี พระอธิการคง คงคปญโญ เป็นพระอุปัชฌาย์
ระหว่างอุปสมบท
ได้ศึกษาธรรมวินัยตามความสามารถ และได้อยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำเขาตะโกพุทธโสภา เป็นเวลา ๕ พรรษา และได้ไปศึกษาในการปฏิบัติธรรมที่วัดบางมูลนาค จังหวัดพิจิตร เป็นเวลา ๕ พรรษา จากนั้นได้เดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำตะโกอีก ๑ พรรษา แล้วเดินทางไปอยู่ที่วัดทำควาย (วัดเสถียร) จังหวัดสิงห์บุรี จำพรรษาอยู่ ๒ พรรษา
เมื่อครั้นออกพรรษาแล้ว ได้เดินทางไปศึกษาธรรมในด้านการปฏิบัติ เรียนพระกัมมัฎฐาน ที่วัดนิยมวิปัสสนา
อำเภอบางบาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ศึกษาธรรมปฏิบัติอยู่เป็นเวลา ๓ พรรษา
จากนั้นได้ไปศึกษานักธรรมที่วัดคอกหมู (วัดสิตาราม) ซึ่งตั้งอยู่ข้างวัดสระเกศ กรุงเทพมหานครและได้ปฏิบัติธรรมไปด้วย
จากนั้นไม่นานได้กลับมาอยู่ที่วัดถ้ำตะโกพุทธโสภาอีกครั้ง และได้ดำริจะออกธุดงค์ ได้เดินรุขมูลจาก
วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ด้วยการเดินตลอดทาง
และได้หยุดปฏิบัติธรรมพระกัมมัฏฐานอยู่ที่เขาวัง และเขางู จังหวัดเพชรบุรี เป็นเวลาพอสมควร ได้เดินทางไปยังเขาสามร้อยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อหาสถานที่อันสงบ เมื่อได้ปฏิบัติธรรมเป็นเวลาพอสมควร จึงได้เดินทางกลับวัดถ้ำตะโกพุทธโสภา และอยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำตะโกอีกระยะหนึ่ง
หลังจากนั้นได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสนามไชย ตำบลโพตลาดแก้ว อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เพื่อช่วยสอนนักธรรม แก่พระภิกษุสามเณร เป็นเวลา ๑ พรรษา และได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพาณิชธรรมิการาม (วัดหนองเต่า) อำเภอ บ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เป็นเวลา ๑ พรรษา และได้กลับมาที่วัดสนามไชย เพื่อทำการสอนนักธรรม แก่พระภิกษุสามเณรอีกถึง ๓ พรรษา ก่อนจะมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสิงห์ทอง จนมรณภาพ
การศึกษานักธรรม
พ.ศ. ๒๔๘๐ สอบได้นักธรรมตรี วัดไตปลาดุก อำเภอบางมูลนาค จังหวัดพิจิตร
พ.ศ. ๒๔๘๕ สอบได้นักธรรมโท วัดบางมูลนาค อำเภอบางมูลนาค จังหวัดพิจิตร
พ.ศ. ๒๔๘๖ สอบได้นักธรรมเอก วัดบางมูลนาค อำเภอบางมูลนาค จังหวัดพิจิตร
ตำแหน่งหน้าที่และสมณศักดิ์
ได้รับตำแหน่งให้รักษาการ เจ้าอาวาสวัดสิงห์ทอง เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๘๗-๒๔๙๕
ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสิงห์ทอง เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๕